ข่าวการศึกษาไทย
กิจกรรมเสริมทักษะว่ายน้ำอนุบาล
ผู้เข้าชม : 13008
ควรจะให้ลูกหัดว่ายน้ำก่อน 5 – 6 ขวบ หรือหัดว่ายน้ำตั้งแต่วัยอนุบาลนี่ล่ะครับ ดีที่สุด – – คือ คุณพ่อคุณแม่อาจจะไม่จำเป็นต้องให้เขาหัดตั้งแต่ ขวบสองขวบ กับคอร์สที่แพงๆ ก็ได้ครับ เอาว่ารอจนเรียนอนุบาล 1 ก่อนก็ได้ครับ (ความคิดเห็นส่วนตัวของผมเอง เพราะผมมองในเชิงของเรื่องค่าใช้จ่าย และการหาคอร์สเรียนด้วยน่ะครับ)
งานวิจัยมีการสำรวจเด็กอายุต่ำกว่า 3 – 5 ปี จำนวน 7,000 คน ในประเทศออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และสหรัฐอเมริกา พบว่า – – เด็กที่หัดว่ายน้ำ มีผลการเรียนที่โรงเรียนดีกว่าเด็กที่ว่ายน้ำไม่เป็น – – ทั้งทักษะการพูด การอ่าน และคณิตศาสตร์ นั่นเป็นเพราะว่า การว่ายน้ำ นั้นนอกจากที่เด็กจะได้ทักษะการเอาตัวรอด และกล้ามเนื้อที่แข็งแรงแล้ว มันยังส่งผลดีต่อสมอง หลายๆ ประการครับ
1) การว่ายน้ำนั้นเป็นการออกกำลังกายที่ให้ผลดีต่อการไหลเวียนของเลือด ตลอดจนการเพิ่มออกซิเจนภายในร่างกายด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นผลดีต่อการพัฒนาสมอง เป็นอย่างมากครับ
2) การว่ายน้ำ เด็กจะต้องใช้ประสาทสัมผัสต่างๆ พร้อมๆ กัน ทั้งสายตา มือ เท้า และการทรงตัว ซึ่งการที่สมองได้ฝึกที่จะใช้ประสาทสัมผัสหลายๆ อย่างพร้อมกัน จะทำให้เส้นใยสมอง (Neuron) เติบโต และพัฒนาเครือข่ายภายในสมองได้อย่างรวดเร็ว
3) การเรียนในระดับอนุบาล และประถมต้น เด็กๆ มักจะต้องใช้การตอบสนองในการทำกิจกรรมในชั้นเรียน เช่น การยกมือ การวิ่งออกมาหน้าห้อง การตอบสนองต่อเสียงนกหวีด หรือสัญญาณต่างๆ ตามที่ครูกำหนดกติกา เด็กที่ว่ายน้ำเป็น จะมีประสิทธิภาพในดารตอบสนองของประสาทสัมผัสหลายๆ ด้าน พร้อมๆ กันได้ดีกว่าน่ะครับ ทำให้เด็กที่ว่ายน้ำเป็น ไม่รู้สึกว่าตัวเองเป็นรองในระหว่างการทำกิจกรรมการเรียนรู้ในห้องเรียน ทำให้เขาเรียนในห้องเรียนได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น ลองถ้าเด็กมีความมั่นใจในการเรียนแล้ว ผลการเรียนก็ไม่น่าจะใช่ปัญหาเลยนะครับ
4) การว่ายน้ำ เด็กต้องใช้สมาธิในการกำกับการเคลื่อนไหว และประสาทสัมผัสหลายๆ อย่าง ให้ทำงานควบคู่กัน ทำให้ดีต่อสมาธิของเด็กด้วยครับ ซึ่งจากงานวิจัยพบว่า การว่ายน้ำยังเป็นผลดีมากๆ กับเด็กที่มีอาการสมาธิสั้นอีกด้วยนะครับ
ด้วยเหตุนี้ ผมจึงคิดว่า – – ให้ลูกหัดว่ายน้ำ ในชั้นอนุบาล – – นี่ล่ะครับ น่าจะดีต่อการพัฒนาสมองที่สุด นอกจากจะว่ายน้ำเป็นแล้ว ยังจะช่วยในเรื่องของการเรียนที่โรงเรียนอีกด้วยครับ
งานวิจัยมีการสำ
1) การว่ายน้ำนั้นเ
2) การว่ายน้ำ เด็กจะต้องใช้ปร
3) การเรียนในระดับ
4) การว่ายน้ำ เด็กต้องใช้สมาธ
ด้วยเหตุนี้ ผมจึงคิดว่า – – ให้ลูกหัดว่ายน้
ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
เรื่อง การจมการลอย 1. สามารถบอกความหมายของการจมและการลอยได้ 3.สามารถคาดคะเนและทดลองการจมการลอยของวัตถุ สาระที่ควรเรียนรู้ ประสบการณ์สำคัญ การดำเนินกิจกรรม ขั้นที่ 1 ขั้นกำหนดปัญหา ขั้นที่ 2 ขั้นตั้งสมุมติฐาน ขั้นสอน ให้เด็กทดลองการจมและการลอย ของเล่นและของใช้ที่ทำจากวัสดุต่างๆ เด็กสังเกตและเก็บข้อมูลของการจามและการลอยของเล่นของใช้ต่างๆ ขั้นที่ 4 ขั้นวิเคราะห์ข้อมูล 1.)ของเล่นและของใช้ที่เด็กนำมาทดลอง มีลักษณะอย่างไรบ้าง 3)เด็กว่าสิ่งของต่างๆที่นำมาลอยน้ำ ทำไมถึงจมน้ำและทำไมถึงลอยน้ำคะ ขั้นที่ 5 ขั้นอภิปรายและลงข้อสรุป สื่อ/และแหล่งเรียนรู้ 2.ของเล่นหรือของใช้ที่ทำจากวัสดุต่างๆ การประเมินผล 2.สังเกตจากการร่วมกิจกรรม 4.สังเกตการแสดงความคิดเห็นและอภิปรายเกี่ยวกับการจมและการลอยของวัตถุต่างๆ
เสียงเป็นพลังงานรูปหนึ่ง เสียงที่เราได้ยินนั้นมาจากวัตถุต่างๆที่อยู่รอบตัวเราที่มีอยู่มากมายหลายชนิด โดยวัตถุทำให้เกิดเสียงเรียกว่า แหล่งกำเนิดเสียง เสียงเกิดจากแหล่งกำเนิดเสียงสั่น เสียงที่ได้ยินมีทั้งเสียงดัง ค่อย ซึ่งเสียงจะเกิดขึ้นเมื่อวัตถุที่เป็นแหล่งกำเนิดเสียงสั่น เช่น เราออกเสียงได้ เพราะเส้นเสียงในลำคอสั่น
ภาษาอังกฤษในฐานะภาษาสำคัญของโลก ภาษาอังกฤษปัจจุบันคือภาษานานาชาติ เป็นภาษากลางของโลก ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางของมนุษยชาติ เป็นภาษาที่มนุษย์บนโลกใช้ติดต่อระหว่างกันเป็นหลัก ไม่ว่าแต่ละคนจะใช้ภาษาอะไรเป็นภาษาประจำชาติ เมื่อต้องติดต่อกับคนอื่นที่ต่างภาษาต่างวัฒนธรรมกันทุกคนจำเป็นต้องใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักอยู่แล้ว ด้วยเหตุนี้ทุกคนทุกชาติทุกภาษาจึงบรรจุวิชาภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองรองลงมาจากภาษาประจำชาติ เป็นแกนหลักของหลักสูตรการศึกษาทุกระดับ ตั้งแต่ปฐมวัยไปจนถึงการศึกษาตลอดชีวิต